การจัดตั้งสหภาพการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน (1)

เดลินิวส์
คอลัมน์ แนวคิด ดร.แดน

เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานนักสำหรับการเลือกตั้งที่ประเทศกรีซ ชัยชนะได้ตกเป็นของพรรคที่สนับสนุนยูโรโซน ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะร่วมมือกับชาติอียูอื่นๆ เพื่อทำให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป จากผลการเลือกตั้งดังกล่าวทำให้สถานการณ์ในยุโรปเริ่มผ่อนคลายลง นักลงทุนมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจของยุโรปและสถานการณ์โลก อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายมองว่าข่าวดีอาจเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น การดำเนินการแก้ไขปัญหาของยูโรโซนยังคงต้องดำเนินต่อไป

ในช่วงเวลาเดียวกันนางอังเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีออกมาเรียกร้องให้ประเทศในยุโรปยอมสละความรับ

ผิดชอบให้แก่ยุโรปโดยองค์รวมให้มากขึ้น โดยรวมตัวกันเป็นสหภาพการคลัง (Fiscal Union) และสหภาพการเมือง (Political Union) ซึ่งถือว่าเป็นก้าวถัดไปโดยธรรมชาติของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งขึ้นและถือเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นในยุโรปด้วย โดยในวันที่ 28 ? 29 มิถุนยนนี้ผู้นำของประเทศในยุโรปจะมีการพิจารณาประเด็นนี้ในการประชุม EU Summit ด้วย

สหภาพการคลัง (Fiscal Union) คืออะไร?

ในทางทฤษฏี การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาจแบ่งได้ 5 ระดับตามความลึกซึ้งของการรวมกลุ่ม ได้แก่

1) เขตการค้าเสรี (Free Trade Area) เป็นการรวมกลุ่มที่เปิดเสรีให้สินค้าเคลื่อนย้ายโดยไม่มีภาษีศุลกากร
2) สหภาพศุลกากร (Customs Union) เป็นการรวมกลุ่มที่มีการค้าเสรี พร้อมกับการประสานระบบภาษีศุลกากรที่ใช้กับสินค้าที่มาจากประเทศที่สามให้อยู่ในระดับเดียวกัน
3) ตลาดร่วม (Common Market) เป็นการรวมกลุ่มที่เปิดให้สินค้าเคลื่อนย้ายเสรี ระบบภาษีศุลกากรเดียวกัน รวมทั้งมีการเคลื่อนย้ายเงินทุน แรงงานและบริการโดยเสรี ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศต้องปรับกฎระเบียบให้เหมือนกัน
4) สหภาพเศรษฐกิจ (Economic Union) เป็นการรวมกลุ่มในลักษณะของการเป็นตลาดร่วม ประเทศสมาชิกประสานนโยบายเศรษฐกิจ ใช้นโยบายการเงินร่วมกัน ใช้เงินสกุลเดียวกัน (Monetary Union) อาจเชื่อมโยงภาคธนาคาร โดยอยู่ภายใต้กฎระเบียบและหน่วยงานกำกับเดียวกัน (Banking Union) รวมทั้งมีการใช้นโยบายการคลังร่วมกันและกำหนดอัตราภาษีเป็นอัตราเดียวกัน (Fiscal Union)
5) สหภาพการเมือง (Political Union) เป็นการรวมกลุ่มระดับสูงสุด ประเทศสมาชิกได้มอบอำนาจให้สหภาพเป็นผู้กำหนดนโยบาย ขณะที่ประเทศสมาชิกเป็นผู้ดำเนินการ

สหภาพการคลังถือเป็นส่วนหนึ่งของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับที่สี่ คือ การเป็นสหภาพเศรษฐกิจ โดยการเป็นสหภาพการคลังนั้นเกิดขึ้นเพื่อบูรณาการนโยบายการคลังของประเทศสมาชิกเข้าด้วยกัน มีองค์กรกลาง (Fiscal Authority) หรือรัฐบาลกลาง (สำหรับประเทศที่เป็นแบบสหพันธรัฐ เช่น สหรัฐ) ทำหน้าที่ควบคุมนโยบายการคลังของประเทศสมาชิก แต่ละประเทศสามารถกำหนดงบประมาณของประเทศตนเองได้ แต่ต้องผ่านการรับรองจากประเทศสมาชิกด้วยและองค์กรกลาง (ในกรณีของยุโรป คือ ประเทศสมาชิกในยูโรโซน, คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปและธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) เป็นต้น) นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ผสมผสานนโยบายการคลังของประเทศสมาชิกให้ออกมาสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เช่น การกำหนดอัตราภาษีให้เป็นอัตราเดียวกัน เป็นต้น องค์กรกลางนี้ยังทำหน้าที่ควบคุมจัดลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายงบประมาณ การเงินและช่วยบริหารจัดการหนี้ของประเทศสมาชิก อีกทั้งสามารถกู้ยืมเงินได้อย่างอิสระ (สามารถออกพันธบัตร เช่น Euro bonds) เป็นต้น

สำหรับสหภาพยุโรปในปัจจุบันมีการใช้นโยบายการเงินร่วมกันผ่านธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) (กำหนดอัตราดอกเบี้ย) มีการใช้เงินสกุลเดียวกัน คือ ยูโร แต่ว่าการตัดสินว่าจะจัดเก็บภาษีอย่างไร จะใช้จ่ายงบประมาณอย่างไรนั้นยังคงเป็นการตัดสินใจของแต่ละประเทศ กล่าวคือสหภาพยุโรปมีความเป็นสหภาพการเงินแต่ยังไม่เป็นสหภาพการคลัง แม้ว่าสหภาพยุโรปมีข้อตกลงเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการคลังร่วมกันบางส่วน เช่น ข้อกำหนดให้ประเทศสมาชิกในกลุ่มมีหนี้สาธารณะได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของ GDPและขาดดุลงบประมาณไม่เกินร้อยละ 3 ของ GDP ซึ่งในภาคปฏิบัติหลายประเทศในสหภาพยุโรปมีหนี้สาธารณะเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่ไม่เห็นมีการดำเนินการใดๆ จากทางสหภาพยุโรป หรือเมื่อไม่นานมานี้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ยกเว้นสาธารณรัฐเชคและอังกฤษ ได้ลงนามในข้อตกลง European Fiscal Compact ที่ยินยอมให้ประเทศที่ลงนามร่วมกันปฏิบัติยอมรับการควบคุมอย่างเข้มงวดในเรื่องการใช้จ่ายและการกู้ยืมของภาครัฐ รวมถึงการยินดีให้มีการแทรกแซงโดยอัตโนมัติหากมีประเทศใดไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่วางไว้ ข้อตกลงนี้เป็นความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพทางด้านการคลังของภูมิภาค แต่ยังไม่ถือว่าเป็นสหภาพการคลัง?

สำหรับคำถามที่ว่า การเป็นสหภาพการคลังมีประโยชน์อย่างไร จะช่วยแก้ไขปัญหาของยุโรปได้หรือไม่ ในทางปฏิบัติสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่อย่างไรนั้น ผมจะกลับมาเล่าให้ฟังในสัปดาห์หน้าครับ

ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, https://www.kriengsak.com