โลกวันนี้วันสุข
คอลัมน์ : HR Tips
…ตื่นเช้ามาอย่างหมดแรง หมดอาลัยตายอยาก ไม่อยากไปทำงาน …บ่นให้คนรอบข้างฟังเสมอว่า เบื่อ เซ็ง กับงานที่ทำอยู่
…ทนทำงานให้หมดไปวันๆ และเฝ้ารอให้ถึงวันศุกร์เร็วๆ เพื่อวันเสาร์อาทิตย์จะได้เที่ยวพักผ่อน
…ทำงานอย่างเช้า
เช้าชามเย็นชามไปวันๆ ไปทำงานสายเป็นประจำ แต่ตกเย็นมักจะรีบกลับบ้านก่อนเพื่อน หากส่อว่ามีอาการดังกล่าว พึงระวัง! ท่านอาจกำลังป่วยเป็น “โรคเบื่องาน” เข้าให้แล้ว ผู้ที่มีอาการโรคเบื่องานมักจะหาทางออกให้ตนเองหลุดพ้นจากความเบื่อหน่ายที่มีอยู่ โดยในขั้นแรกอาจด้วยการพยายามอดทนทำงานนั้นๆ เนื่อง จากยังไม่มีทางออกอื่นที่ดีกว่า ต่อมาเมื่อความเบื่อดำเนินมาถึงขีดสุดอาจผันตัวจากงานที่ทำอยู่ด้วยการเปลี่ยนงานหรือลาออกไปหางานอื่น
เพื่อหลีกหนีจากความซ้ำซากจำเจเดิมๆไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ งานใหม่ ที่คิดว่าน่าจะดีกว่า ในความเป็นจริง ไม่ว่าเราจะทำงานที่ใดก็ตามย่อมประสบปัญหาที่ไม่แตกต่างกันมากนัก การเปลี่ยนงานอาจไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเรื่องความเบื่อหน่ายที่ถูกต้องตรงจุดก็เป็นได้ สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือ เราไม่สามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบตัวเราให้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการได้เสมอไป เช่น ลักษณะงานที่ทำ เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน การใช้วิธีหนีปัญหาด้วยการลาออกหรือเปลี่ยนงานใหม่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และยังเป็นการบ่มเพาะนิสัยการเป็นคนไม่หนักเอาเบาสู้ อันเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานระยะยาวต่อไป ปรับทัศนคติ “คิดบวกก็แก้เบื่อ” เป็นความจริงที่ว่า ถ้าเราเบื่องานที่ทำ ความคิดว่าไม่อยากทำงานจะยิ่งทำให้เราหมดกำลังใจ ไม่อยากทำงาน ดังนั้น ทางที่ดีกว่า ถ้าเราเปลี่ยนงานไม่ได้ให้ลองเปลี่ยนมุมมองต่องานดู โดยมองว่างานนั้นมีคุณค่า มีความสำคัญ มองว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กร และคิดเสมอว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้ความสำเร็จของงานนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ปรับตัวให้เข้ากับงาน “งานไม่น่าเบื่อ เพราะเราทำให้ไม่น่าเบื่อ” ความสนุกกับงานที่ทำนั้น ส่วนสำคัญอยู่ที่เราเป็นคนกำหนดขึ้นเอง หากเราลองมองหาสิ่งต่างๆรอบตัวที่ทำให้เรามีความสุขกับการทำงาน อาจเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงาน ขณะเดียวกันก็ทำงานได้อย่างเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ ย่อมทำให้เรามีความสุขในสิ่งที่ทำได้
ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
kriengsak@kriengsak.com, https://www.kriengsak.com
แหล่งที่มาของภาพ : http://share.psu.ac.th/blog/knowledge-mon/26193