การวางแผนทำสิ่งใด ๆ ให้สำเร็จตามเป้าหมาย ต้องไม่เพียงคิดว่า จะวางกลยุทธ์ไปให้ถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างไร แต่ต้องไปให้ถึงอย่างคุ้มค่า ทรงคุณค่า และเลอค่าอย่างยั่งยืน…
ข้อสรุปข้างต้น เป็นหลักคิดพื้นฐานในการวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารของผม ในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบริหารองค์กร บริหารโครงการ การวางแผนการผลิต ฯลฯ และได้พัฒนาขึ้นเป็น โมเดลกระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เรียกว่า 8E Model เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักบริหาร และคนทำงานทุกคน ในการนำไปใช้เป็นหลักคิดในการวางแผนกลยุทธ์ ในการผลิตสิ่งใดให้เกิดผลลัพธ์ที่สร้างประโยชน์สูงสุด
8E Model เป็นตัวแบบยุทธศาสตร์การบริหาร (Model of Management Strategies) ประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
Efficiency – ประสิทธิภาพ ในการจัดการปัจจัยนำเข้าอย่างมียุทธศาสตร์(Input Management strategy) การใช้ปัจจัยนำเข้า (input) ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรใด ต้นทุน วัตถุดิบ งบประมาณ เวลา แรงงาน ฯลฯ จะต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนว่า จะใช้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ใช้น้อยที่สุดแต่เกิดผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ (output) มากที่สุด เช่น ไม่เพียงคิดว่างานนี้ต้องใช้คน 3 คน แต่จะคิดว่า คนแต่ละคนจะต้องทำอะไรบ้างแต่ละวัน ต้องทำวันละกี่ชั่วโมง ต้องสร้างผลลัพธ์อะไรบ้าง เพื่อให้เต็มศักยภาพ หรือไม่เพียงตั้งงบประมาณและใช้ให้หมด แต่คิดว่าจะใช้อย่างไร จำเป็นหรือไม่เพียงใด เพื่อให้ใช้อย่างคุ้มค่าสูงสุด เป็นเต้น
Excellence – ประสิทธิการ ในกระบวนการดำเนินการอย่างมียุทธศาสตร์ (Process Management Strategy) ในการเลือกกระบวนการดำเนินการ ต้องแสวงหาวิธีที่ดีที่สุด หรือ ดีเลิศ (excellence) โดยเรียนรู้และต่อยอดจาก ตัวอย่างที่ดีที่สุด (best practice) ในเรื่องนั้น จากผู้ที่ทำสำเร็จไว้แล้วและนำมาคิดต่อยอด หรือเรียนรู้จากกระบวนการใกล้เคียง และนำมาประยุกต์ใช้ หรือสังเคราะห์สกัดส่วนดีจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้กระบวนการที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด การคิดเช่นนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ไม่ต้องก่อร่างขึ้นใหม่ ซึ่งอาจผิดพลาด ลดการเสียเวลาลองผิดลองถูก แต่เพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จ ด้วยการนำสิ่งดีที่สุดที่มีอยู่มาต่อยอด ประยุกต์ สังเคราะห์ จนมั่นใจว่ากระบวนการดำเนินการของเรามีประสิทธิการมากที่สุด
Effectiveness – ประสิทธิผล ในการสร้างผลผลิตอย่างมียุทธศาสตร์ (Output Management Strategy) ในการดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดผลผลิตตามเป้าหมาย จะต้องมีตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า ต้องการให้เกิดผลผลิตอะไร เมื่อไร จำนวนเท่าใด มาตรฐานเป็นเช่นไร ฯลฯ เพื่อให้เกิดการโฟกัสที่เป้าหมาย ทำให้การดำเนินงานมุ่งประสิทธิผลหรือผลผลิตที่ตอบสนองเป้าหมายที่แท้จริง ไม่เพียงสร้างผลผลิตให้เกิดขึ้นเท่านั้น เช่น ในการผลิตสินค้า ต้องไม่เพียงคิดว่า จะผลิตได้จำนวนเท่าไร แต่ต้องมองไปสู่จุดหมายว่า ผู้บริโภคตอบรับและชื่นชอบสินค้าของเรามากน้อยเพียงใด เป็นต้น
Esteemed Valuableness – ประสิทธิคุณ ในการจัดการผลลัพธ์อย่างมียุทธศาสตร์ (Outcome Management Strategy) ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ต้องไม่วัดได้เพียง มูลค่า แต่ต้องวัด คุณค่า ของผลลัพธ์นั้นได้ด้วย เช่น การพัฒนาบุคลากรในองค์กร ไม่เพียงดูจำนวนคนที่ส่งไปอบรมว่าครบตามเป้าหมายหรือไม่ และไม่เพียงดูว่าความรู้ทักษะที่ได้จากการอบรมนั้น นำมาใช้ในองค์กรหรือไม่ แต่ต้องดูด้วยว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการอบรมนั้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของหน่วยงานในภาพรวมหรือไม่ เป็นต้น
Esthetic – Worthiness – ประสิทธิสาร ในการบริหารผลลัพธ์ให้เลอค่าอย่างมียุทธศาสตร์ (Outdo Management Strategy) เป็นการคิดต่อยอดและขยายเชิงบวกให้กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ให้เลอค่า หรือมากกว่าคุณค่าที่มีอยู่ เป็น ‘สาระสูงสุด’ แห่งคุณค่าทั้งปวง เช่น ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ไม่เพียงคิดเพื่อใช้ผลิตสินค้าของเราเท่านั้น แต่คิดเลยไปสู่การนำไปใช้ในสังคม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ จากรูปแบบเดิมที่ล้าสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
Exponentiality – ประสิทธิคูณ ในการบริหารเพื่อทวีคูณผลลัพธ์ที่เลอค่าอย่างมียุทธศาสตร์ (Outburst Management Strategy) เป็นการคิดขยายผลต่อยอดอีกขั้นหนึ่ง เพื่อทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง โดยคิดว่าจะนำไปใช้กับคนกลุ่มอื่นได้อย่างไร จะใช้ทางตรงทางอ้อมอย่างไร จะนำประยุกต์ใช้ได้อีกอย่างไร จะกระจายข่าวสารเหล่านี้ให้เข้าถึงทุกกลุ่มได้อย่างไร ฯลฯ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เลอค่านี้ถูกนำไปใช้ประโยชน์เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากมาย
Externality – ประสิทธิเขต ในการขยายผลลัพธ์ไปนอกขอบเขตอย่างมียุทธศาสตร์ (Outbound Management Strategy) คิดนอกกรอบความจำกัดด้านพื้นที่ กลุ่มคน โดยออกแบบให้มีผลนอกขอบเขตด้วย เช่น การนำไปใช้ทั้งในเมืองหนาว เมืองร้อน การนำไปใช้ได้ทั้งในภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การใช้ได้ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ อย่างไม่มีข้อจำกัด เป็นต้น
Eschaton / หรือ Eschatonic Sustainability – ประสิทธิกาล ในการบริหารเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืนอย่างมียุทธศาสตร์ (Outlast Management Strategy) คิดไกลเกินกว่าเป้าหมายเฉพาะหน้า หรือความต้องการระยะสั้น ซึ่งอาจนำไปสู่ผลเสียระยะยาวตามมา แต่คิดเพื่อให้สามารถไปสู่อนาคตได้ โดยเอาชนะผลแห่งกาละ ความไม่แน่นอนต่าง ๆ ได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีผลยั่งยืนยาวนาน ไปถึงอนาคต
หากในกระบวนการคิดวางแผนยุทธศาสตร์ใด ๆ สามารถนำองค์ประกอบ 8E มาร่วมคิดด้วยอย่างครบถ้วนตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางความสำเร็จชัดเจนขึ้น และมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์อย่างแท้จริง
ที่มา: งานวันนี้
ปีที่ 17 ฉบับที่ 753 วันที่ 30 ตุลาคม – 6 พฤศจิกายน 2558
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, http://www.kriengsak.com
แหล่งที่มาของภาพ : http://www.analitica.com/wp-content/uploads/2015/04/brillante-e1430410967967.jpg