ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมามีวันสำคัญของวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี้อีกหนึ่งวันคือ วันครบรอบวันเกิด 100 ปีของอดีตประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ (John Fitzgerald Kennedy) ผู้เป็นศิษย์เก่าและถูกนำชื่อมาใช้เป็นชื่อของวิทยาลัย (Harvard Kennedy School) และเป็นเจ้าของคำพูดอมตะที่ว่า “อย่าถามว่าประเทศจะให้อะไรกับคุณ แต่ขอให้ถามตัวคุณว่า คุณจะสามารถทำอะไรให้แก่ประเทศบ้าง”
วิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี้ได้จัดงานครบรอบฉลองวันเกิดดังกล่าว โดยเชิญบุคคลสำคัญทั้งที่เป็นคณาจารย์ฮาร์วาร์ด เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้นำองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และวิธีการทำให้นโยบายดังกล่าวเหล่านี้ยังคงเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับปัจจุบัน (HKS Communications, n.d.) อาทิ แคโรไลน์ เคนเนดี้ (Caroline Kennedy) บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ เป็นต้น
ผมเองเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าจำนวนมากกว่า 46,000 คนของวิทยาลัยแห่งนี้ที่อยู่ในมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ศิษย์เก่าเหล่านี้มีบทบาทสำคัญทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคไม่แสวงหาผลกำไร (Harvard Kennedy School, n.d.) โดยที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี้มีส่วนสำคัญต่อการบ่มเพาะหล่อหลอมสร้างศิษย์เก่าของวิทยาลัยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำทุกภาคส่วน ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกใจว่า ปัจจุบันมีศิษย์เก่าของวิทยาลัยจำนวนมากที่มีส่วนสร้างอิทธิพลผลกระทบระดับโลก ทั้งเป็นผู้นำและผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
วันครบรอบ 100 ปีเกิดของอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ครั้งนี้จึงมีนัยสำคัญทั้งต่อประเทศสหรัฐอเมริกาและวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี้ในฐานะผู้นำประเทศและศิษย์เก่าผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย อันเป็นเสมือนสัญลักษณ์ย้ำเตือนถึงคุณค่าความสำคัญของการจัดการศึกษาที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคนเนดี้มุ่งหวังให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนคือ การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่จะมีส่วนสร้างผลกระทบเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ประยุกต์สู่มหาวิทยาลัยไทย
ผมเคยนำเสนอแนวความคิด “โมเดลไตรภาวะ” ว่าประกอบด้วย ภาวะการนำ ภาวะบริหาร และภาวะคุณธรรม [1] โดยแนวคิดดังกล่าวนี้มีสาระสำคัญว่า บุคคลที่จะสามารถบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องมีไตรภาวะดังกล่าวนี้ครบถ้วนทั้ง 3 ภาวะ หากมีไม่ครบ มีเพียงภาวะใดภาวะหนึ่งหรือสองภาวะ จะเป็นอุปสรรคขัดขวางทำให้องค์กรไม่สามารถบรรลุสู่ความสำเร็จตามที่ต้องการอย่างแท้จริง อาทิ หากมีแต่ภาวะการนำ เป็นผู้บริหารองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และมีเป้าหมายชัดเจน แต่ขาดภาวะการบริหาร ไม่สามารถบริหารจัดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกับขาดภาวะคุณธรรม อันเป็นสาเหตุสำคัญนำสู่ปัญหาการทุจริต ประพฤติมิชอบ จะสร้างให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรมากน้อยแตกต่างกันตามระดับความรุนแรงของการขาดแคลนในแต่ละภาวะ เป็นต้น
มหาวิทยาลัยควรมีเป้าหมายสร้างผู้เรียนที่มีศักยภาพเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงป้อนสู่ภาครัฐกิจ ภาคธุรกิจ และภาคประชากิจหรือประชาสังคม[2] โดยให้มีทั้ง 3 ภาวะดังกล่าวนี้ครบถ้วน ด้วยการออกแบบพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนการสอนทุกอย่างมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันนี้ อันจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวผู้เรียนเองและหน่วยงานหรือองค์กรผู้ใช้งานบัณฑิตหรือผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัย และมีส่วนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศชาติสังคมในอนาคตด้วยอีกทางหนึ่ง
รายการอ้างอิง
Harvard Kennedy School. (n.d.). History. Retrieved from
https://www.hks.harvard.edu/about/history
HKS Communications. (n.d.). HKS Celebrates JFK 100. Retrieved from
https://www.hks.harvard.edu/news-events/news/articles/hks-celebrates-jfk-100
[1] ผมนำเสนอแนวคิดไตรภาวะอย่างเป็นทางการ ในการปาฐกถา ณ ที่ประชุมสมัชชาสยามอารยะ วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560.
[2] ผมนำเสนอในการบรรยายหัวข้อ ศึกษิตกับการสร้างประเทศไทย: ประชากิจ ธุรกิจ รัฐกิจ จัดโดย มหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งคุณธรรม วันเสาร์ที่ 15 ส.ค. 2558.
ที่มา: สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
คอลัมน์ : สะท้อนคิดจากฮาร์วาร์ด
ปีที่ 64 ฉบับที่ 38 วันศุกร์ 2 – พฤหัสบดี 8 มิถุนายน 2560
ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
นักวิชาการอาวุโส มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD)
kriengsak@kriengsak.com, http://www.kriengsak.com